เคล็ดลับ และ เทคนิค ‘สัมภาษณ์งานออนไลน์’ มั่นใจ ได้งานชัวร์

/
/
เคล็ดลับ และ เทคนิค ‘สัมภาษณ์งานออนไลน์’ มั่นใจ ได้งานชัวร์

ตั้งแต่ Covid-19 ระบาด HR หลายๆ บริษัทก็ได้ปรับตัวและเปลี่ยนมาใช้การสัมภาษณ์งานออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น

การสัมภาษณ์งานออนไลน์ ส่วนมากจะเป็นการใช้ Screen คนในรอบแรก เพราะ สามารถนัดผู้สมัครได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องเจอหน้ากันเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ ถึงแม้ว่ามาตราการของรัฐบาลจะผ่อนปรนมากขึ้นแล้ว แต่ HR ก็ยังนิยมใช้การสัมภาษณ์ออนไลน์กันอยู่ดี

เมื่อไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ การที่จะสื่อสารข้อความของเราออกไป อาจจะทำได้ยากมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะเห็นหน้ากันผ่าน Video Call ที่เรียกว่า Virtual Interview ก็ตาม เพราะฉะนั้น ผู้สัมภาษณ์งานควรฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อที่จะสัมภาษณ์งานออนไลน์ได้ปังๆ แล้วมีงานทำในที่สุด !!

วันนี้ Adaptivity จะพาไปดู 8 เคล็ดลับและเทคนิคที่จะมัดใจ HR ระหว่างสัมภาษณ์งานออนไลน์ มีอะไรบ้างไปดูกัน !

1. แต่งตัวให้ดูดี
ควรแต่งตัวให้เหมือนเวลาๆ ไปสัมภาษณ์งานจริงๆ แบบตัวเป็นๆ ควรแต่งกายสุภาพ น่าเชื่อถือ เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ นอกจากเสื้อผ้าแล้ว หน้า, ผม ก็ต้องดูดีด้วยเช่นกันเพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพ

ลองนึกถึงสภาพที่นั่งสัมภาษณ์งานอยู่ที่บ้าน ข้างบนใส่สูทผูกไทด์อย่างดี แต่ข้างล่างใส่บ็อกเซอร์ แล้วคนสัมภาษณ์บอกให้ยืนขึ้น ก็อาจจะโป๊ะแตกได้เลยทีเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวไว้จะได้ไม่พลาดโอกาสดีๆ

2. ทดลองใช้แอปพลิเคชั่น
อย่าลืมถาม HR ว่าต้องการจะสัมภาษณ์งานผ่านแพลตฟอร์มไหน โดยแอปพลิเคชั่นที่ HR ไทยนิยมใช้กันในการสัมภาษณ์งานได้แก่ Google Meet, Line, Zoom, Microsoft Team, Skype เป็นต้น

เพื่อที่เราจะได้เข้าไปสร้าง Log-in ล่วงหน้า และ Set-up ตั้งค่า กล้อง, ไมค์, หูฟัง และทดลองใช้แอปพลิเคชั่นนั้นๆ เพื่อฝึกความเคยชินในการใช้งานดูก่อนจะได้ไม่ ‘งง’ หรือกดผิดกดถูและติดขัด เมื่อเข้าไปใช้จริง !!

อย่าลืมอัพเดทแอปพลิเคชั่นเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดทุกครั้งก่อนการสัมภาษณ์ และควรจะทดสอบสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้พร้อมใช้และชาร์ตแบตอุปกรณ์ให้เต็มก่อนเวลาสัมภาษณ์เสมอ

3. หาสถานที่ที่เหมาะสม
สถานที่สัมภาษณ์งานออนไลน์ที่ดี ควรจะเลือกห้องที่มีความเงียบ มีแสงสว่างเพียง ไม่มืดจนเกินไป และควรดูฉากหลังด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ มีสิ่งของอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า เพราะ ห้องที่รกรุงรังและภาพศิลปินในดวงใจที่ติดอยู่บนผนังห้อง อาจจะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกไม่ดี นอกจากนั้นยังสะท้อนตัวตนและความมีระเบียบของผู้ให้สัมภาษณ์อีกด้วย

อาจจะเลือกเป็นฉากหลังที่ผนังโล่งๆ หรือถ้าไม่มีพื้นที่จริงๆ ก็อาจจะเลือกใช้ฉากหลังจากตัวแอปพลิเคชั่นแทน ก็จะช่วยทำให้ผู้สัมภาษณ์ Focus ที่ตัวเราเป็นหลัก ไม่ใช่สิ่งของที่อยู่บนฉากหลังที่มาแย่งซีน

4. ระวังการใช้ภาษากาย
มนุษย์สื่อสารผ่านภาษากายมากกว่า 60% ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับน้ำเสียงและภาษากายในระหว่างการสัมภาษณ์ Video Call เราควรมองตาผู้สัมภาษณ์งาน มากกว่าที่จะสนใจภาพตัวเองที่อยู่บนจอ ควรแสดงท่าที่อ่อนน้อม ยิ้มแย้ม สุภาพ และเป็นมิตร ใช้น้ำเสียงที่ดังกำลังดี ไม่เบาเกินไป และไม่ใช้การตะโกน

ไม่ควรแสดงออกทางภาษากายในทางลบ เช่น มองบน, ชักสีหน้า, ร้อนรน, กระวนกระวาย, กอดอก, เบะปาก, ล้วงแคะแกะเกา หรือฝืนยิ้มมากจนเกินไปจนดู FAKE แกล้งทำ และไม่จริงใจ

5. ระวังถูกขัดจังหวะ
การถูกขัดจังหวะมักเกิดขึ้นบ่อยๆ เวลาเราไม่คาดคิด โดยเฉพาะถ้าเราไม่ได้อาศัยอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นควรบอกคนที่บ้าน พ่อแม่พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมห้องให้ชัดเจนว่าเรามี สัมภาษณ์ออนไลน์ ตอนกี่โมง จะได้ไม่ถูกขัดจังหวะ หรืออาจจะล็อกประตูห้องไม่ให้ใครหรือสัตว์เลี้ยงตัวไหนโผล่เข้ามา

ควรตั้งค่าโทรศัพท์เป็น Silent Mode หรือปิดสัญญาณโทรศัพท์แล้วเปิดแต่เฉพาะ WIFI จะได้ไม่โดนโทรเข้ามาขัดจังหวะระหว่างสัมภาษณ์งานออนไลน์ด้วย

6. เตรียมข้อมูลให้พร้อม
ควรฝึกซ้อมการสัมภาษณ์ให้คล่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในช่วงการแนะนำตัวที่เป็นสิ่งที่ HR เกือบทุกบริษัทใช้ในการเริ่มต้นการสัมภาษณ์ ลองหาข้อมูลบริษัทและเก็งคำถาม-คำตอบที่ถูกใช้บ่อยๆ ในการสัมภาษณ์งานเตรียมไว้ล่วงหน้าว่า HR จะถามอะไรบ้าง เช่น จุดอ่อน-จุดแข็ง, ประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต เป็นต้น

หนึ่งข้อดีของการสัมภาษณ์งานออนไลน์ คือผู้สัมภาษณ์จะไม่เห็นสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่บนจอ นั้นหมายความว่าคุณสามารถจดโน๊ตสั้นๆ เกี่ยวกับข้อมูลบริษัทหรือชื่อของคนสำคัญในบริษัท แปะเอาไว้บนหน้าจอ เพื่อเตรียมพร้อมใช้ในการสัมภาษณ์ได้ โดยควรทำเป็น Bullet หัวข้อสั้นๆ เพื่อความสะดวกในการใช้ และไม่ถูก ‘จับได้’ ว่าอ่านโน๊ตตอบคำต่อคำ !

7. เช็คเวลาให้ดี
การตรงต่อเวลาถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการทำงาน คงไม่มีใครอยากพลาดโอกาสในการสัมภาษณ์งานเพราะดูวัน เวลาผิด ควรตั้งแจ้งเตือนในปฏิทิน และตั้งเวลาปลุกก่อนสัมภาษณ์งานจริงๆ สัก 15-20 นาทีเพื่อเตรียมพร้อมสภาพกายและจิตใจให้พร้อมเพื่อลดความตื่นเต้น

การทำงานในยุคดิจิทัล มีการทำงานทางไกลที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก เพราะฉะนั้นเขตเวลา (Time Zone) ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และทำความเข้าใจให้ตรงกัน นอกจากนั้นควรใช้มาตราฐานการเขียนวันเวลาที่ชัดเจน เช่น 4 กุมภาพันธ์ 2022 แทนที่จะใช้ 04/02/2022 เพื่อหลีกเลี่ยงการอ่านสลับและสร้างความเข้าใจผิด

8. มีแผนสำรอง
สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น ไฟดับ, เน็ตหลุด, คอมค้าง, แบตหมด หรือหูฟังพัง ไมโครโฟนเจ้ง ! ซึ่งสิ่งที่เหล่านี้หลายๆ ครั้งนั้นเราไม่สามารถควบคุมมันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้

แต่สิ่งที่เราทำได้คือเตรียมตัวให้พร้อม มีแผน 2 สำรองไว้เสมอ เช่น ถ้าคอมค้าง ก็เปลี่ยนมาใช้ แอปฯ บนโทรศัพท์แทน, มีเบอร์ติดต่อ HR ผู้ที่สัมภาษณ์เตรียมไว้ เผื่อมีเหตุขัดข้องจะได้โทรแจ้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่หายไปเฉยๆ ทำอะไรไม่ถูก, หรือ อาจจะเตรียมหูฟัง ไมค์โครโฟนไว้สองอันกันพลาด และชาร์ตแบตอุปกรณ์ที่จะใช้ในการสัมภาษณ์ให้เต็มอยู่เสมอ !!

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสัมภาษณ์งาน คือ การเล่าประสบการณ์การทำงาน, สิ่งที่เคยประสบความสำเร็จ และการนำเสนอความสามารถของตัวเองให้แก่ HR ฟัง เพื่อที่จะทำให้ HR เชื่อว่า ‘เรา คือ คนๆ นั้นที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน !!’

คุณกำลังหางานอยู่ใช่ไหม? แล้วคุณเตรียมตัวสัมภาษณ์ยังไงเพื่อให้ได้งาน?